พ.ล.ท. Fujiko F Fujio Museum

วันแรกของการท่องเที่ยวนี้ เราจัดโปรแกรมสำหรับคุณลูกโดยเฉพาะ ด้วยการไปดูพิพิทธภัณฑ์ Fujiko F Fujio และ Legoland Discovery Center ค่ะ

เริ่มต้นวันด้วยการแซะคุณลูกขึ้นจากเตียง อากาศหนาวๆ แบบนี้คุณแม่ก็จัดการให้คุณลูกซักแห้งค่ะ :D จับเปลี่ยนชุดเสร็จสรรพก็พร้อมออกเดินทาง

จากที่พักในย่านอะกิบะ เรานั่งรถไฟไปที่สถานีชินจุกุเพื่อต่อรถไฟสาย Odakyu ไปลงที่สถานี Noborito ในเขตเมือง Kawasaki ซึ่งอยู่แถบชานเมืองโตเกียว

การมาเที่ยวที่พิพิทธภัณฑ์ Fujiko F Fujio นี้ จำเป็นจะต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนค่ะ โดยซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson (มาถึงตรงนี้ ถ้าใครมีญาติพี่น้องหรือเพื่อนๆ อยู่ที่ญี่ปุ่นให้ช่วยซื้อก็จะสะดวกหน่อยค่ะ) โดยตั๋วนี้จะมีการระบุเวลาไว้ 1 วันจะมีทั้งหมด 4 รอบค่ะ เข้าใจว่าทางพิพิทธภัณฑ์ต้องจำกัดคนเข้าชมในแต่ละรอบเนื่องจากเป็นพิพิทธภัณฑ์ขนาดเล็ก ถ้านักท่องเที่ยวเข้าไปมากๆ ทีเดียวคงไม่สะดวกเป็นแน่

เมื่อได้ทั้งตั๋วรถไฟและตั๋วเข้าชมพิพิทธภัณฑ์เสร็จสรรพ ก็ได้เวลาลุยกันเลย จากสถานี Noborito ไปที่พิพิทธภัณฑ์มีรถบัสรับส่ง (เสียค่าโดยสารเพิ่มเติม) เป็นรถที่ช่วยบิลท์อารมณ์อยากเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะทำเป็นลายตัวการ์ตูนดังๆ ของคุณ Fujiko F Fujio อย่างเที่ยวที่เราขึ้นก็เป็นรูปปาร์แมนและผองเพื่อน

bus

ไม่นานก็มาถึงพิพิทธภัณฑ์ซึ่งภายนอกดูเรียบง่ายมากๆ จนอาจจะดูไม่เหมือนเป็นพิพิทธภัณฑ์การ์ตูน (ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่พิพิทธภัณฑ์การ์ตูนหรอกนะ แต่เป็นพิพิทธภัณฑ์ของนักวาดการ์ตูนต่างหาก) ที่ด้านหน้าจะมีพนักงานสาวๆ จัดระเบียบนักท่องเที่ยวเพื่อให้เข้าชมตามรอบที่เราซื้อบัตรมา และมี audio guide ให้ยืมฟังด้วยค่ะ สำหรับคนต่างชาติก็มีภาษาอังกฤษให้เลือกด้วย

ข้างในจัดแสดงผลงานภาพวาดการ์ตูนของคุณ FFF เป็นหลัก มีทั้งแบบที่เป็นหนังสือและภาพยนตร์การ์ตูน แล้วก็มีการจำลองโต๊ะทำงานของคุณ FFF ให้ดูด้วย ซึ่งบนโต๊ะอัดแน่นไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อย ราวกับจะบอกเราว่าการเป็นนักวาดการ์ตูนที่ดีนั้น ไม่ได้ใช้แค่จินตนาการเท่านั้น แต่ต้องมีการค้นคว้าหาความรู้ด้วย เห็นได้จากสารพัดหนังสือและสารานุกรมต่างๆ ที่คุณ FFF ใช้ในการค้นคว้า นอกจากนั้นยังมีการเดินทางไปต่างแดน อย่างประเทศอียิปต์ด้วย เป็นโอกาสในการสอนเด็กๆ ที่ดีอย่างหนึ่งที่ว่าคนที่เก่งและประสบความสำเร็จก็ต้องมาจากความพยายามด้วยเหมือนกัน (แหม แม่จะซีเรียสไปไหมคะเนี่ย)

 

 

photo 2

photo 3

photo 5

 

 

photo 1

สำหรับเด็กเล็กๆ ที่ชั้นบนจะมีมุมแม่และเด็กให้เข้าไปเล่นของเล่นด้วยค่ะ แต่ของเล่นที่ว่านี้เป็นของเล่นพื้นๆ ไม่ได้มีแสงสีเสียงดึงดูดกระตุ้นเด็กแบบของเล่นสมัยใหม่ แต่จะเป็นพวกบล็อกไม้ และของเล่นเรียบง่ายที่ให้เด็กๆ ได้ใช้จินตนาการที่บรรเจิดสร้างสรรขึ้นมาเอง ลองคิดดูว่าประเทศสุดไฮเทคอย่างญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับของเล่นเรียบง่ายแบบนี้ พวกเราก็ไม่น่าจะมองข้ามเหมือนกัน ของชิ้นนึงที่แม่ชอบมากคือแท่งไม้สูงที่เมื่อเรานำลูกบอลไม้หย่อนลงมาจากด้านบนจะเกิดเสียงดนตรีสูงๆ ต่ำตามแต่ว่าลูกบอลจะหล่นไปกระทบกิ่งไม้อันไหน

photo 1

photo 2

photo 3

ที่ชั้นนี้จะมีส่วนของตู้กดกาชาปอง ตู้ถ่ายภาพ เกม และ theatre ด้วย แน่นอนว่าแม่ชวนพ่อและหิ้วลูกไปถ่ายรูปที่ระลึกร่วมกัน (ย้อนความหลังที่เคยมากับพ่อกัน 2 คนครั้งที่มี babymoon ต้องที่คุณลูกยังอยู่ในท้อง) ส่วน Theatre ก็ฉายหนังสั้นๆ รวมตัวละครต่างๆ ของคุณ FFF ที่มีชีวิตขึ้นมาในช่วงกลางคืนหลังพิพิทธภัณฑ์ปิด (ส่วนของ Theatre ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆ อย่างลูกของเราเท่าไหร่ เพราะเด็กจะไม่นั่งดูอยู่นิ่งๆ)

เดินทั่วพิพิทธภัณฑ์กันจนหิว ก็ขอเดินเลยขึ้นที่ร้านอาหารกันค่ะ คราวก่อนเคยเล็งๆ อาหารหน้าตาน่ารักเอาไว้แต่ยังไม่ได้ลอง มาคราวนี้เลยชักชวนเพื่อนร่วมคณะที่พร้อมใจกัน(ท้อง)ร้องว่าไปกินกันเถอะ รสชาติอาหารถือว่าระดับมาตรฐานค่ะ แต่พรีเซนเทชั่นนั้นดึงดูดมากๆ เพราะตกแต่งเป็นการ์ตูนต่างๆ ได้อย่างน่ารักทีเดียว :)

photo 5

photo 4

พอท้องอิ่มก็ขอออกไปเดินรับลมกันที่สวนกลางแจ้งที่ชั้นบนของพิพิทธภัณฑ์ ที่มีประติมากรรมรูปตัวการ์ตูนต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปคู่กันอย่างสนุกสนาน (ดูเหมือนว่าพ่อๆ แม่ๆ บางคนจะสนุกสนานยิ่งกว่าเด็กๆ ซะอีก)

dino

IMG_8831

ปิดท้ายด้วยร้านของที่ระลึกที่แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ดึงดูดให้เลือกชมและช้อปกันอยู่พักใหญ่ทีเดียว แหม ก็ญี่ปุ่นนี่เค้าช่างทำของน่ารักๆ มาให้ดูดเงินในกระเป๋าเก่งอยู่แล้วนี่นา ว่าแล้วแม่ก็รีบปรี่ไปหยิบ tea towel สไตล์ภาพพิมพ์ไม้ลายโดราเอมอนมา 1 ผืน…

bronze