สมองใครคิดสมองคนนั้นก็พัฒนา

สิ่งหนึ่งที่เราควรคำนึงถึง แต่มักจะลืมทำกันก็คือเรื่องของการเปิดโอกาส การเปิดพื้นที่ให้เด็กได้คิดและทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง

เมื่อโรงเรียนของลูกเชิญคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่อง Floor time มาอบรมให้ผู้ปกครองนักเรียน อ.1 ฟัง คุณหมอพูดประโยคหนึ่งว่า “สมองใครคิดสมองคนนั้นพัฒนา” 

หลายต่อหลายครั้งที่ผู้ใหญ่ “ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน” อย่างเราๆ คิดแทนเด็ก ด้วยคิดว่าเรามีประสบการณ์มาก่อน ย่อมรู้ดีกว่า ดังนั้นจึง “ป้อน” ข้อมูลสำเร็จรูปให้เด็กได้ทันที 

การทำอย่างนี้ ดูเหมือนจะดี เพราะไม่ต้องมาลองผิดลองถูกกันอีก แต่ถามว่าเด็กได้ลองคิดหรือไม่ และสิ่งที่ผู้ใหญ่คิดแทนให้นั้นถูกจริงหรือ มันจะมีคำตอบอื่นที่ถูกกว่าไหม

ท่าทีของพ่อแม่ที่ทางโรงเรียนแนะนำคือ การนิ่งและเฝ้าสังเกตุ เปิดโอกาสให้ลูกได้คิด ได้ลองทำ (ไม่ว่าจะผิดหรือถูก) พูดง่ายๆ คือ ให้พ่อแม่หุบปากและเปิดใจ ต่อเมื่อลูกมีโอกาสแล้ว สมองลูกก็จะได้คิดและได้พัฒนานั่นเอง

วันนี้ น้องพอลเล่นรถของเล่นแล้วผลักแรงจนรถเข้าไปอยู่ใต้เตียง

พี่พีทรีบมาบอกว่าทุกคนไม่ต้องช่วย พี่พีทจัดการเอง

พ่อกับแม่ก็นิ่งดูว่าพี่พีทจะ”จัดการ”ยังไง

สักพัก พี่พีทไปหยิบปากกามา บอกว่าเดี๋ยวเอาปากกาเขี่ย (ทั้งที่รถเข้าไปลึกเกือบกลางเตียง)

พ่อกับแม่นึกถึงคำพูดของหมอขึ้นมาได้ เลยไม่ว่าอะไร และคอยดูว่าลูกจะทำยังไง

พีทลองเอาปากกาเขี่ย แต่ไม่ถึง จึงเดินไปหยิบม้วนกระดาษห่อของขวัญมา แล้วเขี่ยรถออกมาได้สำเร็จในที่สุด 

พอเขี่ยออกมาได้ แม่เลยถามว่าทำไมใช้ม้วนกระดาษห่อของขวัญเขี่ย ก็ได้คำตอบว่า “มันยาวพอไง”

แม่กับพ่อก็แอบปลื้มว่าลูกรู้จักคิดแก้ปัญหาเป็นเหมือนกัน

เลยอยากแชร์ให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นได้ลองทำกันดูบ้าง ไม่แน่ว่าลูกของคุณอาจมีไอเดียดีๆ ให้คุณได้ทึ่งก็เป็นได้