Whimsical World of Mr Walker

ฉันรู้จักคุณทิม วอร์คเกอร์ ช่างภาพชาวลอนดอน ครั้งแรกจากภาพถ่ายชวนฝันของเขาในหนังสือ Vogue

สะดุดตากับภาพถ่ายสีพาสเทลหวานๆ กับธีมที่ชวนฝันไม่แพ้กัน ราวกับท่องอยู่ในโลกของนิทานอลิสในแดนมหัศจรรย์ เจ้าหญิงจากแดนไกล และดินแดนเทพนิยายสารพัน

แสงสวยๆ จากธรรมชาติกับสีสันของเสื้อผ้า สิ่งของประกอบฉาก และความใส่ใจในรายละเอียดประสานกันอย่างลงตัว ออกมาเป็นผลงานแสนสวย ^_^

สัมผัสโลกฝันที่สร้างจากมือมนุษย์…อย่างคุณทิม วอร์คเกอร์ ได้ที่นี่

Tim Walker Pictures ที่ Design Museum (London)

i.e. หรือ e.g.

i.e. e.g.

หลายต่อหลายคนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารมักจะมีจุดอ่อนบางอย่างเกี่ยวกับการสะกดคำหรือเลือกใช้คำศัพท์ที่ถูกต้อง

ยกตัวอย่างง่ายๆ คนใกล้ตัวของฉันมักมีปัญหากับคำว่า through, though และ thought ประเภทเขียน อ่านสลับกันไปหมด งงอยู่อย่างนี้ ไม่ว่าจะบอกไปกี่ครั้งว่าอะไรใช้ยังไง ก็ยังงงไม่เลิก

ล่าสุด ฉันไปลอง search หาความแตกต่างระหว่าง i.e. กับ e.g. เพราะตัวเองมักใช้สลับกันไปเรื่อยตามอำเภอใจ หารู้ไม่ว่าสองตัวนี้มีความหมายต่างกัน

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเอามาแบ่งปันความรู้กันที่นี่แล้วกันนะคะ

ทั้ง i.e. และ e.g. นี้เป็นอักษรย่อ (abbreviation) มาจากภาษาละติน แต่ความหมายและการใช้ไม่เหมือนกันค่ะ (ที่ฉันเล่นใช้สลับกันไปมา ก็จึงเป็นการใช้ที่ผิดหลัก)

i.e. นั้นมาจากคำว่า id est หรือเป็นภาษาอังกฤษว่า that is หรือ in other words เป็นการขยายความให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น

I’m going to the place where I work best, i.e., the coffee shop. หมายความว่า ฉันจะไปที่ที่ฉันทำงานได้ดีที่สุด (ประมาณว่ามีสมาธิมากที่สุด ชอบมากที่สุดเวลาจะนั่งทำงาน ฯลฯ) นั่นก็คือร้านกาแฟ ดังนั้น คำว่า the place where I work best ก็คือ the coffee shop นั่นเอง

แต่สำหรับ e.g. นั้นมาจาก Exempli Gratia หรือ for example ใช้เป็นการยกตัวอย่าง เช่น 

At the places where I work well, e.g., Starbucks, I have none of the distractions I have at home. หมายความว่า สถานที่ที่ฉันชอบไปนั่งทำงาน (ร้านกาแฟ) ตัวอย่างเช่น ร้านสตาร์บัคส์ (สตาร์บัคเป็นหนึ่งในร้านกาแฟหลายๆ ร้านที่ฉันชอบไปนั่งทำงาน) เป็นที่ที่ฉันมีสมาธิดี (ไม่มีสิ่งรบกวน เหมือนอย่างที่บ้าน)

ลองใช้ดูนะคะ ^_^

my hand made

ฉันเป็นโรคภูมิแพ้…ความน่ารัก

จำได้ว่าเมื่อตอนเด็กๆ เคยชอบทำตุ๊กตาจากเศษผ้าของแม่ ดูรายการทีวีที่สอนทำตุ๊กตาประดิษฐ์แบบง่ายๆ แล้วก็เอามาลองทำสนุกๆ ขำๆ ดูได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็สนุกแบบเด็กๆ บางตัวต้องใช้ผ้ายืดมาทำตัวตุ๊กตา ก็สู้อุตส่าห์แอบไปเอาเสื้อยืดเก่ามาตัด โชคดีที่ผ่านพ้นไม้เรียวมาได้

ส่วนที่ชอบฉันที่สุดเวลาทำตุ๊กตาก็ตอนเขียนหน้าให้ตุ๊กตานี่แหละ การวาดหน้านี่ถือเป็นช่วงวัดดวง เพราะถ้าวาดสวยก็สวยไป วาดเสียก็แก้ไม่ได้ ในรายการทีวีบอกไว้ว่าเทคนิคการทำแก้มแดงของตุ๊กตาก็คือการใช้บรัชออนมาแต้มด้วยคอตต้อนบัด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นรายการของอาจารย์พรจันทร์ จันทวิมล อาจารย์พรจันทร์ท่านนี้เป็นไอดอลสำหรับฉันในวัยเด็กเลยทีเดียวเชียว) อันนี้ถือเป็นไฮไลท์ของการแต่งหน้าตุ๊กตา เพราะได้เอาเครื่องสำอางแม่มาเล่น

แต่พอโตขึ้น ความสนใจในการทำตุ๊กตาก็ลดน้อยถอยลง ด้วยความที่มีกิจกรรมสารพัดให้ทำ

แม้จะไม่ได้ทำตุ๊กตา แต่ฉันก็คงความสนใจในเจ้าสิ่งประดิษฐ์น่ารักทั้งหลายแหล่อยู่เสมอ ก็บอกแล้วว่าเป็นพวกแพ้ความน่ารัก

ล่าสุด คุณน้องสาวพาเอาหนังสือน่ารักที่บรรจุตัวตุ๊กตาหน้าตาบ้องแบ๊วกลับมาจากเยอรมันนี (แอบสงสัยว่าเจ้าน้องสาวตัวดี ไปเรียนหรือไปทำงานอดิเรก) พอเปิดดูหนังสือ Softies Simple Instruction for 25 Plush Pals ปุ๊บก็ เกิดอารมณ์ศิลปินติดปั๊บ (เป็นเหมือนคนเจอถ่านไฟเก่า) เลยหยิบจับเอาผ้าสักหลาด (ฝรั่งเรียก felt) มาทำเป็นเพื่อนรักตัวเล็กเหล่านี้ค่ะ

tooth

ฟัน ฟัน ฟัน

rabbit

กระต่ายแก้มแดง

tea

tea & sympathy?

La Fin des Terres สุดแผ่นดิน

— Monsieur Genty has his head in the clouds

La Fin des Terres หรือ อวสารแห่งปฐพี โดยคณะนักแสดง Phillipe Genty ใช้เป็นการแสดงเปิดเทศกาล La Fête เทศกาลศิลปะวัฒนธรรมฝรั่งเศสสำหรับปีนี้

แม้เทศกาล La Fête จะจัดขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้ว แต่ฉันก็เพิ่งมีโอกาสได้เข้าไปชมกับเค้าก็คราวนี้แหละ ด้วยได้อานิสงค์จากเพื่อนสาว (สวย) ที่อุตส่าห์เป็นธุระจัดหาบัตรมาให้ ด้วยความที่เธออยากให้ฉันไปดูการแสดงนี้จริงๆ พร้อมกับโฆษณาให้ว่า การแสดงนี้เนี่ยดีสุดๆ เลยนะเธอ โปรดักชั่นดีมากกกกก เอ้า เชื่อเพื่อนค่ะ เชื่อในรสนิยมสาวเอกละคร แถมเพื่อนอุตส่าห์หาตั๋วมาให้ ฉันก็เลยจัดแจงเลื่อนนัดเย็นนั้น เพื่อไปดู Lands End แทน

กว่าจะได้รับตั๋วก็เกือบถึงเวลาเริ่มแสดง เนื่องจากเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย (เจ้าหน้าที่หาชื่อใน list ไม่เจอ) แต่ในที่สุดก็รับตั๋วเรียบร้อย

การแสดงนี้กินเวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงครึ่ง (ใน web ของ Thaiticket Master และสูจิบัตรของงาน เขียนเอาไว้ว่า “ความยาว 1.30 ชั่วโมง ในห้วงแห่งความฝัน”)

การแสดงเริ่มขึ้นด้วยฉากที่ชายใส่เสื้อโอเวอร์โค้ตคนหนึ่งจัดแจงกับหุ่นคนตรงโต๊ะทำงานตัวหนึ่ง เพียงพริบตาเดียวหุ่นตรงโต๊ะทำงานกลายเป็นนักแสดงขึ้นมา ด้วยทริกมายากลที่นำมาใช้นำเสนอตลอดเรื่อง เรื่องราวที่ไม่ปะติดปะต่อ ทำให้บางครั้งดูแล้วไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ สุดท้ายเลยใช้วิธีที่จะไม่พยายามทำความเข้าใจ แต่ปล่อยใจไปกับภาพที่ปรากฏขึ้นบนเวที

แม้ฉากและพร็อพต่างๆ ที่นำมาใช้จะอยู่ในสักษณะที่น้อยชิ้น เมื่อเทียบกับการแสดงละคร แต่แต่ละชิ้นที่เลือกมา ประกอบกับการจัดแสงกลับสร้างเอฟเฟคที่โดดเด่น เกิดเป็นภาพสวยงามขึ้นบนเวที ฉากที่ชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นฉากบนรถไฟ ที่ให้อารมณ์อยู่บนรถแล้วมีลมพัดเอากระดาษไปปะทะกับหน้านักแสดงจริงๆ นอกจากนี้ก็ยังมีฉากบอลลูนขนาดยักษ์ที่พองลมอัดแน่นบนเวทีที่สวยและแปลกตาจากโชว์อื่นๆ ที่เคยดูมา

แน่นอนว่ามีบางฉากที่ค่อนข้างยาวและอาจจะน่าเบื่อไปบ้าง (ด้วยพยายามหาความหมายจากภาพที่เห็น) แต่โชว์ก็จบลงด้วยความประทับใจ น่าเสียดายที่ว่าในคืนนั้นการแสดงชุด Lands End จัดแสดงเป็นครั้งสุดท้าย เป็นคืนสุดท้าย ใครอยากลองชมส่วนหนึ่งของการแสดงคงต้องคลิกไปดูที่ Youtube (แต่ขอบอกว่าบนเวทีจริง น่าตื่นตากว่ามาก ^_^)

สำหรับ official website ของเทศกาล La Fête ดูได้ที่นี่

สำหรับนักชิมทั้งหลาย กิจกรรมน่าสนใจอีกอย่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลคือ Dîner Dans Le Noir ดินเนอร์ไร้แสงเทียน (และแสงอื่นๆ) ที่จะจัดขึ้นที่ร้าน Déjà Vu โรงแรม Pullman กรุงเทพฯ จากคอนเซปของร้านอาหาร Dans le Noir? ที่ฝรั่งเศส

เปิดท้ายขายของ Met Bazaar ที่เมโทรโพลิแทน

ฝากบอกข่าวสำหรับคนช่างช้อป คราวนี้ได้ทั้งช้อปและช่วยเหลือน้องๆ โรงเรียนวัดบางเพลิง จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ได้มีห้องสมุดดีๆ เอาไว้ใช้กัน รายได้จากการค่าเช่าโต๊ะขายของบวกกับเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายจะเอาไปสมทบทุนกับโครงการนี้

มาถึงเรี่องของสินค้ากันบ้าง คราวนี้มีทั้งสินค้าจากโรงแรมเอง ทั้งของใหม่และของมือสอง เช่น จาน ชามใบใหญ่สำหรับงานเลี้ยง (ราคาถูกมาก) ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันต่างๆ จาก Como Shambhala Urban Escape ทั้ง Massage Oil และ Essential Oil สารพัดกลิ่น ในราคาพิเศษสุดๆ (แนะนำกลิ่น Invigorate ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกลิ่น signature ของ Shambhala เลยทีเดียว)

ในส่วนของพนักงานก็มีสินค้าหลากหลายทั้งของมือหนึ่ง ของมือสอง เสื้อผ้า ต้นไม้ ขนม ฯลฯ ให้เลือกช้อปกันได้ ในราคาไม่แพง

งานนี้จัดเพียงวันเดียวเท่านั้น ในวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2552 (ตรงกับวัน World Environment Day) ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 17.00 น. ณ โรงแรมเมโทรโพลิแทน กรุงเทพ ถ.สาทรใต้ค่ะ 

ยังไงก็เลยฝากประชาสัมพันธ์กันมา เผื่อใครอยู่ใกล้ๆ แถวนี้จะแวะมาร่วมด้วยช่วยกันค่ะ

Happy Birthday to you, Big Ben

ภาพจาก trivago.co.uk

เพิ่งผ่านวันเกิดปีที่ 150 ไปเมื่อวานนี้สำหรับ Big Ben แลนด์มาร์คสำคัญของกรุงลอนดอนลองมานึกๆ ดู ถ้าเปรียบกับอายุคน คุณทวดบิ๊กเบนก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อยเลยทีเดียว

ฉันยังจำภาพประทับใจที่ได้เห็น Big Ben ครั้งแรกเมื่อกว่า 10 ปีก่อนได้ดี เรียกว่าครั้งนั้นถ่ายรูปคุณทวด Big Ben ไปหลายรูปหลายมุม ดูยังไงแกก็สง่างามแบบคลาสสิค ถ้าปีนี้มีโอกาสคงได้แวะเวียนไปเยี่ยมกันอีก

คุณรู้หรือไม่ว่า…

หอนาฬิกา Big Ben มีชื่อจริงว่า St Stephen’s Tower เป็นส่วนหนึ่งของ Palace of Westminster

เจ้าหน้าที่ต้องไขลาน Big Ben สัปดาห์ละ 3 ครั้ง

ฟังเสียงระฆังของ Big Ben ได้ที่นี่

กว่าจะมาถึงวันนี้ คุณทวด Big Ben ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาดังนี้